บริเกต์ ฉลอง 200 ปี เส้นทางประวัติศาสตร์ผ่านเรือนเวลา

บริเกต์แบรนด์นาฬิกาและอัญมณีล้ำค่าจากสวิตเซอร์แลนด์ จัดเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้ “Reine de Naples 200 Year Celebration” เฉลิมฉลองปีแห่งประวัติศาสตร์ ครบ 200 ปีของการผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก โดย มร.เอ็มมานูเอล บริเกต์ ทายาทรุ่นที่ 7 ของตระกูลบริเกต์ ได้บินมาร่วมงาน พร้อมเผยโฉมนาฬิกา “แรน เดอ นาปล์ ออโตเมติก สไตรค์” นาฬิกาข้อมือระบบกลไกคอมพลิเคชั่นอันประณีต ที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษและมีจำนวนจำกัด สำหรับวาระเฉลิมฉลองนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งโชว์ชิ้นงานมาสเตอร์พีซจากตระกูล “แรน เดอ นาปล์” ให้ลูกค้าระดับวีไอพีได้ชมอย่างใกล้ชิด ณ ห้องนอร์มังดี โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล

สำหรับ “แรน เดอ นาปล์” เป็นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่ปรากฏแก่สายตาชาวโลก จากการรังสรรค์ของ บริเกต์ เพื่อสนองพระประสงค์ของพระนางคาโรลีน มูราต์ พระ ขนิษฐาของจักรพรรดินโปเลียน ที่ทรงสวมใส่บนข้อพระกรเป็นครั้งแรกในเวลานั้น เนื่องจากยุคนั้นมีแต่นาฬิกาพก โดยใช้เวลาผลิตนานถึงสองปีครึ่ง และถวายแก่พระราชินีคาโรลีนในปี ค.ศ.1810 ต่อมาในปี 2002 บริเกต์จึงได้รังสรรค์นาฬิกาตระกูล “แรน เดอ นาปล์” ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ผ่านเรือนเวลา มีด้วยกันทั้งหมด 6 รุ่น เริ่มจาก “แรน เดอ นาปล์ หมายเลข 8908” นำเสนอรูปแบบคอมพลิเคชั่นบอกข้างขึ้น ข้างแรม, “แรน เดอ นาปล์ หมายเลข 8918” ที่ดึงจินตนาการและความประณีตมานำเสนอบนหน้าปัดเปลือกหอยมุก ตัวเลขอารบิกรูปทรงแบบยืดขยายดูแปลกตา ประดับเพชรทรงหยดน้ำ มาพร้อมกับสายนาฬิกาแบบสร้อยถักทองคำแท้, “แรน เดอ นาปล์ มินิ หมายเลข 8928” เล็ก แต่ดูหรูหรา, “แรน เดอ นาปล์ หมายเลข 8909” โดดเด่น ด้วยสายข้อมือที่ประดับเพชรทั้งเม็ดกลม บาแก็ตต์ และแซฟไฟร์คาโบชอง, “แรน เดอ นาปล์ ซอนเนอรี่ หมายเลข 8978” ครั้งแรกกับการรัง– สรรค์ระบบกลไกซับซ้อนในเรือน ซึ่งตีบอกเวลาทุกชั่วโมงโดยอัตโนมัติ ด้วยเสียงตี 2 ครั้งและซ้ำถึง 3 เที่ยว และ “แรน เดอ นาปล์ สตีล หมายเลข 8967” ดีไซน์พิเศษเพื่อสุภาพสตรีที่สง่างาม ใช้สำหรับชีวิตประจำวัน
ส่วนเรือนพิเศษที่เผยโฉมเป็นครั้งแรกในงานนี้ ได้แก่ “แรน เดอ นาปล์ ออโตเมติก สไตรค์” เป็นเครื่องบอกเวลาชั้นสูงระดับมาสเตอร์พีซ ที่รวบรวมความสมบูรณ์แบบทั้งหมดไว้ในเรือนเดียวกัน ราคาเรือนละ 5,313,000 บาท ใครสนต้องสั่งจองล่วงหน้า เพราะเมืองไทยได้โควตามาแค่ 2 เรือนเท่านั้น.
ที่มาข่าวไทยรัฐออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: